เรื่องทั่วไปที่ควรทราบ

1.เราสามารถ Fast Travel ได้ด้วยการกด M และกดไปที่ Camp ที่ต้องการ โดยสามารถเลือกไปยังแผนที่อื่นได้ดดยกด World Map

2.ภาคนี้จะมีสัตว์ขี่มาช่วยเหลือเราทั้งการเดินทางและเรื่องทั่วไป โดยการทำภารกิจเราสามารถขึ้นขี่ Seikret และกด N เพื่อรับของช่วยเหลือในแต่ละภารกิจได้ (ภาคก่อนจะเป็นกล่องตอนเริ่มด่าน) รวมถึงเราสามารถตั้งอาวุธรองเอาไว้เพื่อเปลี่ยนอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย ส่วนการขึ้นขี่ปกติแล้วจะกด Tab เพื่อเรียกมาและขี่

3.เนื้อเรื่องหลักจะจบที่ Chapter 3 ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นเนื้อเรื่องเสริมช่วง High Rank ช่วง Chapter 4 โดยระบบต่าง ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะปลดหลังจากนั้น

4.โดยปกติเกมจะต้องออนไลน์เสมอ แต่หากเราไม่อยากเจอกับผู้เล่นอื่นสามารถเลือกเล่นแบบ Private Lobby ได้ตอนกดเริ่มเกม

5.เราสามารถเรียกเรียกผู้เล่นอื่น(ถ้าไม่มีจะเป็น NPC) มาช่วยได้ในการต่อสู้กับมอนโดยการกดที่เมนู > Mission & Quest > SOS Flare

สำหรับผู้เล่นใหม่

Monster Hunter ในภาพรวมเลยเป็นเกมที่เราจะต้องเตรียมตัวเพื่อจัดการกับมอนสเตอร์ที่เป็นเป้าหมาย โดยเมื่อเราเอาชนะได้ จะสามารถรับวัตถุดิบนำมาทำอาวุธและอุปกรณ์เพื่อนำไปล่ามอนสเตอร์ตัวใหม่ ๆ หรือจัดการกับตัวเก่าได้ง่ายขึ้น ซึ่งความสนุกของเกมนี้คือการหาของเพื่อมาล่ามอนสเตอร์ และเตรียมพร้อมในการจัดการกับมอนสเตอร์ที่เราต้องเจอ หรือบางคนอาจจะสนุกกับการกดคอมโบในอาวุธต่าง ๆ ซึ่งภาคนี้ทำให้ระบบคอมโบต่าง ๆ ดีขึ้นมาก

โดยเนื้อเรื่องของเกมนี้ส่วนใหญ่จะไม่ยาวมากนัก โดยเนื้อหาหลักของเกมจะอยู่หลังจากจบเนื้อเรื่องถ้านับจากภาคนี้คือจบ Chapter 3 ครับ ซึ่งระบบหลาย ๆ อย่างจะปลดมาช่วงนั้น ถ้าหากว่าไม่รีบแนะนำว่าให้ลองเสพบรรยากาศของเกม ไปก่อนค่อย ๆ เรียนรู้ได้ แต่หากอยากรีบเล่นก็สามารถ Rush ไปหลัง Chapter 4 ได้เลย ซึ่งเกมที่แท้จริงจะเริ่มจากนี้เป็นต้นไป

Chapter 0

เริ่มมาเกมจะเปิดมาที่เด็กหนุ่มที่ชื่อว่า Nata ได้หลบหนีออกมาจากการไล่ล่าของมอนสเตอร์และได้พบกับเหล่านักสำรวจที่ผ่านมาพอดี หลังจากที่เด็กหนุ่มน่าจะเดินฝ่ากลางทะเลทรายมาเป็นเวลานาน ซึ่งกลุ่มนักสำรวจที่มาบุกเบิกจะช่วยเด็กหนุ่มคนนี้ไว้ก่อนจะพากลับไป ก่อนทีเ่กมจะให้เราสร้างตัวละคร

Chapter 1

Desert Trotters

เริ่มเกมมาเราจะออกเดินทางมาสำรวจแดนต้องห้าม โดยได้รับคำสั่งมาจาก Fabis โดยเค้าจะให้เราออกเดินทางไปกับเด็กหนุ่ม Nata ที่ได้ช่วยเหลือมาก่อนหน้า โดยสิ่งที่เราทราบคือ Nata เป็นเด็กหนุ่มที่มาจากแคลนที่ชื่อว่า The Keepers โดยจุดมุ่งหมายของพวกเราคือการออกตามหาร่องรอยของอารยธรรมที่สูญหาย ซึ่งเบาะแสคือสร้อยคอที่เด็กหนุ่มพกมา โดยเราจะได้นำทีมสำรวจในรอบนี้ ซึ่งผู้ช่วยของเราคือ Alma

ตัดกลับมาที่ปัจจุบันขณะที่กำลังเดินทางผ่านทะเลทรายเราจะพบกับเด็กหญิงที่กำลังหนีออกมาจากฝูงมอนสเตอร์ โดยเราจะตัดสินใจเข้าไปช่วย ซึ่งตรงนี้เกมจะเดินให้อัตโนมัติ

ให้ทำตามคำแนะนำของเกมไปเรื่อย ๆ โดยระหว่างหนีเกมจะสอนเราใช้งานสลิงเกอร์ เช่นการหยิบกระสุนจากสิ่งมีชีวิต และการยิง โดยพอจบแล้วเด็กสาวที่เราช่วยไว้จะขอให้เราไปช่วยเหลือพี่ชายที่พลัดพลากจากกัน โดยเธอจะให้ยืม Seikret เพื่อไปหาพี่ชายของเธอ Y’sai

พอคุยจบเราจะได้รับการสอนทั่วไปของเกมและสามารถเลือกเปลียนอาวุธต่าง ๆ ได้ ในแคมป์หรือจะคุยกับ Alma เพื่อทำแบบทดสอบ เกี่ยวกับอาวุธที่เราน่าจะชอบก็ได้ พอพร้อมแล้ว ให้เดินไปคุยกับ Seikret อยู่และกด Tab เพื่อขี่มันจะนำทางเราไปยังจุดที่ Y’sai อยู่ โดยเราจะพบว่าเค้ากำลังเจอปัญหาอยู่โดยกำลังถูกมอนสเตอร์กบยักษ์จู่โจม เราจึงต้องเข้าไปปะทะกับมัน

Chatacabra

มอนสเตอร์ตัวแรกที่เราจะได้ต่อสู้ด้วย มันค่อนข้างจะเชื่องช้าจึงไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เป็นมอนสเตอร์ที่เอาไว้ฝึกสำหรับฮันเตอร์หน้าใหม่ที่พึ่งเข้ามาเล่น เจ้าตวนี้จุดอ่อนจะอยู่ที่ลิ้น และจุดอ่อนคือธาตุน้ำแข็งและไฟฟ้า (แต่เอาจริงใช้อะไรก้จัดการได้หมด)

หลังจัดการกับ Chatacabra เรียบร้อยแล้วเราจะพา Y’sai กลับไปพบน้องที่ฐานชั่วคราวของเรา เขาจะขอบคุณเราที่ช่วยเหลือเขาและน้องเอาไว้ พอการคุยจบลงให้เราเดินสำรวจรอบๆ โดยเควสจะให้เราไปคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ 3 คน โดยดูได้จากแผนที่ ซึ่งจะมีสีแดงบนแมพ โดยจะมีภารกิจเสริมที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้คือคุยกับ Nata เค้าจะเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง โดยในการทำเควสเราจะปลดล็อกเนื้อหาดังนี้ระบบการอัปเกรดและสร้างอาวุธ

• Traing Ground เอาไว้ฝึกการใช้อาวุธต่าง ๆ
• ร้านค้าสำหรับซื้อของทั่วไป

จากนั้นเข้าไปในแคมป์เราจะทำการประชุมกับหัวหน้าทีมต่าง ๆ ซึ่งเราจะทราบคร่าว ๆ ว่าทีมของเรา Alvis มีเป้าหมายระยะสั้นคือการช่วยเเหลือ Keepers (ชนเผ่าของ Nata) และ หาตำแหน่งของ White Wraith (ภูตสีขาว) มอนสเตอร์ที่มาโจมตีหมู่บ้านของ Nata เนื่องจากช่องทางที่ Nata หนีมาได้ปิดตายไปแล้วทำให้ไม่ทราบข้อมูลอะไรมากนัก ส่วนทีมอื่น ๆ อย่าง Astrum / Rubrum / Turris / Ferrum ก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีเป้าหมายในการสำรวจ

Village of Whispering Winds

หลังการประชุมจบลงให้ไปพักใน Tent ก่อนจากนั้นหากพร้อมแล้วให้ไปคุยกับ Alma เราจะเดินทางไปยังหมู่บ้านของ Y’sai กับน้องสาว โดยหากพร้อมแล้วให้ก Yeah,let’s head out ระหว่างการเดินทางเราสามารถใช้สลิงเกอร์เก็บของต่าง ๆ ที่พบได้ ระหว่างทางเราจะแวะชมวิวและเก็บน้ำผึ้งไปให้กับทางแคมป์ เมื่อเราเดินทางมาถึงเป้าหมายคือหมู่บ้านแล้วพวกเค้าจะไม่ยอมให้เราผ่านไป และเราจะต้องคืน Seikret ให้กับหมู่บ้านไปก่อน

คุยจบแล้วเดินตาม Alma ไป เราจะพบว่ามีพวกสัตว์ต่าง ๆ กำลังอาละวาดให้เราจัดการพวกมดยักษ์ที่พบ จะพบสาเหตุคือได้มีมอนสเตอร์ยักษ์มาออกอาละวาดใกล้หมู่บ้าน พอจบตรงนี้เดินทางกลับแคมป์ ระหว่างทางเราสามารถเก็บของต่าง ๆ ก่อนได้ พอถึงแคมป์แล้วเราจะนำน้ำผึ้งไปมอบให้ Jack และไปคุยกับ Gemma (ช่างตีเหล็ก) เธอจะให้ของรเามานิดหน่อยสามารถใช้อัปอาวุธหรืออุปกรณ์ได้

พอเตรียมตัวเสร็จแล้วไปคุยกับ Alma เราจะไปตามหาพวกแมวที่ยังมาไม่ถึง เราจะพบว่าพวกเค้าโดนมอนสเตอร์ยักษณ์ไล่ล่าอยู่ ในระหว่างนั้น Y’sai จะเข้ามาช่วยและได้นำ Seikret มาให้เรา ทำให้เราไล่ตามมาได้ทันซึ่งจะต้องต่อสู้กับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้

Quematrice

• จุดอ่อน: บริเวณตัวและหัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่ Poison และ Parasis จะได้ผลดีเป็นพิเศษ

ความน่ากลัวของมอนสเตอร์ตัวนี้คือมันสามารถที่จะพ่นไฟ และใช้หางในการโจมตีได้ ทำให้นอกจากจะต้องระวังการพุ่งโจมตีกับพ่นไฟแล้ว ต้องระวังการโจมตีจากหางของมันด้วย แต่ก็เคราะห์ดีที่มันไม่ค่อยไวเท่าไหร่ เราสามารถคอยหลบและสวนกลับได้เรื่อย ๆ เพียงแต่อาจต้องระวังการสะบัดหางของมันสักหน่อย

พอจัดการกับเจ้า Quematirce เราจะได้พูดคุยกับ Y’sai และเค้าจะขอโทษฏับปัญหาที่เกิดขึ้นและจะเชิญเราไปยังบ้านอย่างทางการเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เราช่วยเอาไว้ ตอนนี้เราจะปลดล็อกการเปลี่ยนอาวุธได้แล้วโดยสามารถพกอาวุธรองได้และจะเปลี่ยนได้ที่ Seikret

พอเราทำอะไรเรียบร้อยแล้วให้คุยกับ Ferdinand เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับพฤกติกรรมของมอนสเตอร์ ตรงนี้เราจะปลดล็อกการดูข้อมูลของพวกมอนสเตอร์หรือ Field Guide ทำให้สามารถเช็คข้อมูลของมอนที่เคยเจอได้ โดยก่อนจะมาคุยกับเค้าสามารุถคุยกับ Nata เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเค้าได้ จบแล้วไปคุยกับ Alma (เควสเสริม) หรือไปเควสหลักต่อโดยการคุยกับ Y’sai ได้เลย รอบนี้เค้าจะพาเราเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งคราวนี้ชาวบ้านจะยอมให้เราเข้าไปแล้ว โดยเราจะทราบว่าภายในหมู่บ้านจะมีหิน Gemchimes พวกมันจะช่วยไล่มอนสเตอร์ออกไป ซึ่งพวกมันส่งเสียงเฉพาะออกมา

พอเข้ามาในหมู่บ้าน Y’sai จะให้เรารอเพื่อเตรียมการขอบคุณ ระหว่างนี้ให้เราไปพบกับ Elder Ela เพื่อสอบถามข้อมูลของ Keeper โดยเธอจะบอกว่าไม่ทราบเช่นเดียวกัน จบแล้วไปคุยกับผู้หญิงที่กำลังจุดไฟอยู่(ดูบนแผนที่สีแดง) เราจะรู้ว่าที่นี่จะใช้เชือเพลงจากหินที่ชื่อว่า Wllkdrop หลังจากนั้นกลับไปที่บ้านของ Y’sai เค้าจะเตรียมอาหารให้เราเรียบร้อยแล้ว ใครหิวอยู่แนะนำว่าปิดตาไว้

พอทานเสร็จเราจะพูดคุยกันโดยจะทราบว่าปกติแล้ว Doshaguma ปกติแล้วจะไม่ออกมาจากป่า และปกติหิน Gemchimes จะช่วยไล่พวกมอนสเตอร์ออกไป ทำให้เราทราบถึงความไม่ปกติ พอกลับมาที่แคมป์ฌราจึงตัดสินใจที่จะไปสำรวจที่ป่าในวันถัดไป พอคุยจบเตรียมตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินทางไปยังป่า แต่ก่อนนั้นอาจจะทำเควสรองหรือเก็บทรัพยากรต่าง ๆ ก่อนก็ได้ (ตำแหน่งของป่าจะอยู่แถวเลข 10 )

Forest Findings

พอเข้าไปในป่าเราจะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยพืชพันธ์แปลก ๆ และแม่น้ำมีสีแดง โดยพอเข้ามาจะได้พบกับ Olivia ก็มาทำการสำรวจอยู่ที่นี่เช่นกัน เราจึงเดินทางไปด้วยกันที่แคมป์ในป่า เราจะบอกถึงเหตุผลที่มาสำรวจเนื่องจากมอนสเตอร์มีพฤกติกรรมแปลก ๆ ซึ่งพวก Olivia จะช่วยเหลือเราด้วย พอเตรียมตัวพร้อมแล้วให้คุยกับ Erik เราจะเดินทางไปสำรวจป่ากัน โดยเลือก Yeah,let’s head out

ให้เดินตามทางเรื่อย ๆ ตามตำแหน่งมาร์คแดงเราจะเจอกับจุดตั้งแคมป์ชั่วคราว พอตั้งแคมป์เรียบร้อยแล้ว เดินตามทาง (แนะนำให้ทานอาหารก่อน) เราจะไปตามหาร่องรอยของ Doshaguma โดยสำรวจรอบ ๆ จุดที่พวก Olivia อยู่ โดยระหว่างทาง Eric จะสำรวจเพลินและโดนมอนสเตอร์จับไป ทำให้เราต้องปะทะกับ Lala Barina

Lala Barina

• จุดอ่อน: บริเวณหัว / ตัว / ตูด หากมันกางดอกไม้มาตรงนั้นจะทำดาเมจได้มากเป็นพิเศษ
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่ Stun จะได้ผลดีเป็นพิเศษ

ความน่ากลัวของมอนสเตอร์ตัวนี้คือการปล่อยสปอร์กระจายออกมา ทำให้เราติดสตั๊นได้ แต่ภาพรวมแล้วเราสามารถสู้กับมันได้ไม่ยากเท่าไหร่ โดยพยายามเปิดจุดอ่อนที่ขา แล้วโจมตีมัน เคราะห์ดีคือมันมีขาจำนวนมากให้เราตี

พอจัดการ Lala Barina เรียบร้อยแล้วเราจะกลับมาที่แคมป์ ให้ไปคุยกับ Gemma แนะนำว่าควรอัปเกรดอุปกรณ์เพื่อให้เล่นง่ายขึ้น พอทำธุระที่แคมป์จบแล้วให้ไปที่แคมป์ชั่วคราวที่เราตั้งไว้เมื่อเควสสักครู่ (สามารถเปิดแมพและ Fast Travel ได้) พอมาถึงจะพบกับพวกแมวเข้าคุ้นแคมป์ของเรา และพวกมันให้เราตามไป พอตามพวกมันไปจนสุดทาง จะเจอกับ Plumpeach หัวหน้าของพวกมัน ซึ่งเรียกตัวเองว่า Wudwuds เราจะขอให้พวกเค้าเลิกยุ่งกับเต็นท์ของเรา แต่พวกมันจะบอกว่าจะต้องแลกเปลียนโดยจัดการพวกที่มาก่อกวนการเก็บน้ำผึ้งของพวกมัน คือเจ้า Congalala

พอพร้อมแล้วให้ไปหา Congalala ที่อยู่ในป่า โดยสามารถเดินตามจุดสีแดงได้เลย เราจะเจอกับมันกำลังหลับอยู่แต่พวก Wudwuds จะไปก่อกวนมันจนตื่นทำให้เราต้องปะทะกับมัน

Congalala

• จุดอ่อน: หลัง
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ / น้ำแข็ง
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง

มอนสเตอร์ตัวนี้สามารถพ่นลมพิษออกจากปากและก้นได้ ทำให้เราต้องระวังทั้งปากและก้นของมัน แถมยังพ่นไฟได้ด้วย แต่มันจะเคลื่อนที่ค่อนข้างช้า เราสามารถหลบและสวนเรื่อย ๆ ได้แต่อาจต้องระวังท่าโจมตีระยะไกลของมันเล็กน้อย เพราะจะทำให้เราติดสถานะผิดปกติด้วย และอีกจุดนึงคือพอเลือดมันเริ่มลดมันจะหนีไปหาพรรคพวกของมันลิงขนาดเล็ก แม้ว่าอาจจะไม่เก่งมากแต่น่ารำคาญใช้ได้เลย ส่วนถ้าหากว่าคุณติดสถานะตัวเหม็นแล้วจะฮีลไม่ได้ เราสามารถกลิ้งตัวในน้ำเพื่อล้างได้ ส่วนถ้าติดไฟให้กลิ้งรัว ๆ

ปิดจ็อบกับ Congalala เรียบร้อยแล้วพวก WudWuds จะยอมรับเราและให้เราอยู่ในป่าได้ โดยตอนนี้เกมจะปลดล็อกระบบ

• Pop-ups Camps
• Side Quest

เราสามารถที่จะตั้งแคมป์ได้โดยการวางแคมป์ชั่วคราวหรือให้พวกแมวในเมืองมาช่วยตั้งได้ หากเราพบจุดตั้งแคมป์ (วงสีเขียวๆ) พอคุยจบเราจะกลับไปที่แคมป์ และตัดสินใจจะไปตรวจสอบ Doshaguma พอคุยกับ Alma จบแล้วให้ไปเตรียมตัวและของ เพื่อเตรียมทำภารกิจต่อไป

The Investigation Continues

เตรียมตัวให้เรียบร้อยแล้วไปคุยกับ Alma เราจะตัดสินใจไปสำรวจต่อและได้พบว่าพวก Doshaguma มีจ่าฝูงซึ่งตัวใหญ่และมีสีขนผิดปกติ ซึ่งพวกมันไม่กลัวอะไรเลยและทำลายแคมป์ชั่วคราวของเรา พอทราบเรื่องเราจึงตัดสินใจที่จะไปแจ้งกับ Y’sai เพื่อเตือนถึงอันตรายจากมอนสเตอร์ตัวนี้ที่อาจจะเข้ามาทำลายหมู่บ้าน เพราะพฤกติกรรมผิดปกติและมีตัวหัวหน้า

A Hunter’s Pride

Y’sai จะเชื่อเราแต่ว่าคนอื่น ๆ อาจะไม่เชื่อโดยเค้าจะพยายามจะไปเกลี้ยกล่องแม่เฒ่า โดยเค้าจะแนะนำให้เราไปเกลี้ยกล่อม Zatoh ก่อนเขาจะอยู่ที่โอเอซิส ให้เดินมาตามทางระหว่างกำลังจะไปถึงนั้น จะมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือและพบว่า Zatoh ถูกโจมตีโดยพวกมอนสเตอร์ เราจึงตัดสินใจไปช่วย

เมื่อเราตามมาสมทบกับ Zatoh เค้ากำลังพยายามหลอกล่อพวก Balahara อยู่ ให้เราวิ่งหนีไปตามทางพร้อมกับเค้า แต่สุดท้ายเราจะโดนดูดลงไปในหลุ่ม และต้องปะทะกับเจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้

Balahara

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่ Paralysis จะได้ผลเป็นพิเศษ

เจ้าตัวนี้ถือว่าน่ารำคาญเลยหากเทียบกับตัวที่ผ่านมา มันสามารถใช้หางในการโจมตีเราได้อย่างรวดเร็วและหางของมันก็ระยะไกลพอสมควรด้วย แต่ยังดีที่มันไม่ค่อยไวเท่าไหร่ โดยจุดที่เราควรระวังคือหางและท่าโจมตีระยะไกลของมัน ให้พยายามหลบการโจมตีสำคัญและคอยสวนเรื่อย ๆ ก็ไม่ยากแล้วครับ และตอนที่มันหนีขึ้นไปข้างบนและไต่หินเราสามารถพังหินเพื่อให้มันร่วงลงมาได้ด้วย และหากมี Sonic Bomb เราสามารถปาใส่มันได้ โดยจะใช้ได้ผลดีมากตอนมันมุดดินอยู่ เราสามารถทำให้มันขึ้นมาได้เลย

หลังจัดการเจ้า Balahara แล้ว เราจะขอให้ Zatoa ช่วยเกลี้ยกล่อมหัวหน้าหมู่บ้านอีกแรง โดยเค้าจะยอมเชื่อเราแต่ไม่ทันซธแล้วพวก Doshaguma ได้เข้าโจมตีหมู่บ้านทำให้เราต้องเข้าไปปะทะกับพวกมัน โดยเราจะทำการล่อมันอกไปที่ด้านนอก และเข้าสู้กับเจ้า Alpha Doshaguma

Alpha Doshaguma

• จุดอ่อน: หัวและบริเวณตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ / ไฟฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง

เริ่มการต่อสู้ระหว่างที่ตัวอื่น ๆ กำลังวุ่นอยู่กับพวกสัตว์ให้เราทำการโจมตีเจ้า Alpha และล่อมันออกมา ที่ทะเลทราย เพื่อให้มันปะทะกับ Balhara แต่มันก็จะเอาชนะมาได้และเข้ามาโจมตีเราต่อ

โดยการต่อสู้กับมันให้ระวังท่าโจมตีต่าง ๆ ให้ดีโดยเฉพาะการตะปบและเข้าประชิด เพราะมันรุนแรงมาก และถือว่าเร็วกว่าตัวที่เราเคยเจอมาก่อนหน้าระดับนึง การโจมตีหลัก ๆ ของมันจะเป็นการตะปบและการพุุ่งกัด พยายามใจเย็น ๆ คอยโจมตี่เปิดจุดอ่อนแล้วทำลายจุดอ่อนไปเรื่อย ๆ ก็จะสู้ได้ไม่ยาก ที่ต้องระวังอีกอย่างคือหากมันเลือดเหลือน้อยมันจะดุร้ายขึ้น

Pursuite of Solitude

หลังการโจมตีของ Alpha Doshaguma พายุจะผ่านไปพอดี ถือเป็นการเริ่มฤดูใหม่ของทะเลทรายแห่งนี้ ซึ่งสวยงามมาก เราจะเข้าไปพบกับ คนในหมู่บ้านและได้รับการขอบคุณ และบอกว่าที่หมู่บ้านนี้จะต้อนรับพวกเราเสมอ รวมถึงให้ Seikret เพื่อช่วยเหลือในการเดินทางของพวกเรา

Beyond the Deluge

หลังจบเหตุการณ์ข้างต้น จะปลดล็อกระบบหลังการคุยกับ Nona

• Seikret Customization

พอทำทุกอย่างพร้อมแล้วให้คุยกับ Nata ที่แคมป์แรก โดยระหว่างนี้เป็นโอกาสดีที่เราจะทำ Optional Quest เพื่อหาของมาอัปอุปกรณ์ พอจัดการทุกอย่างพร้อมแล้วคุยกับ Nata เพื่อกลับไปยังป่า โดยเราจะเอา Seikret ไปให้ Olivia แต่พวกเธออยู่ที่เขื่อน เราจึงเดินทางไปหา แต่จะพบว่าพวกเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายโดยได้พบกับ Uth Duna ทำให้ต้องเข้าปะทะกับมัน

Uth Duna

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง แต่ Stun จะได้ผลน้อยกว่าอย่างอื่น

เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้จะมีคลีปซึ่งเป็นธาตุน้ำ เราจะต้องทำลายมันก่อนเพื่อจะได้ทำดาเมจมันได้รุนแรงขึ้น การโจมตีของมันแม้ว่าจะช้าแต่มีระยะค่อนข้างกว้าง ทังการพุ่งชนหรือการตะปบ ทำให้ต้องระวังให้ดีเพราะค่อนข้างจะแรงมาก ๆ โดยเฉพาะการโคมตัวเข้ามาทับเราดาเมจค่อนข้างรุนแรงมากทีเดียว หากติดสถานะผิดปกติสามารถกิน Nullberry หรือ Antidose เพื่อรักษาได้

ขณะที่ Uth Duna หนีไป อยู่ ๆ ก็ได้มีมอนสเตอร์อีกตัวเข้ามาโจมตีมันคือเจ้า White Wraith ที่เรากำลังตามหานั่นเอง มันจัดจัดการกับ Uth Duna ได้อย่างง่ายดายก่อนจะหนีไป

หลังจากมันไปเราจะตัดสินใจสำรวจรอบ ๆ ก่อนกลับ ให้ทำการแล่ Uth Duna ก่อนแล้วคุยกับ Olivia เพื่อกลับฐาน เราจะสรุปสิ่งที่ทราบ และตัดสินใจไปสอบถามเรื่องนี้กับพวก Wudwuds

A Looming Shadow

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วคุยกับ Alma เลือกYeah,all set. เราจะเดินทางไปหาพวก Wudwuds ระหว่างทางสามารถเก็บพวกสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้โดยการใช้ตาข่าย พอมาถึง เราจะสอบถามเกี่ยวกับมอนสเตอร์ที่เจอ คือเจ้า White Wraith พวก Wudwuds จะบอกเราว่าไม่รู้ ระหว่างนั้นเราจะเจอกับ Zantoa เค้าจะเดินทางไปค้าขายกับเผ่าอื่น ๆ จึงชวนเราไปด้วยที่ Oilspring โดย Olivia ที่เจกันระหว่างทางก็จะมาด้วย

---

Chapter 2

Toward Fervent Fields

เราจะทราบว่าที่หมู่บ้านจะนำพวกของใช้ประจำวันและพวกหนังสัตว์ไปแลกเปลี่ยนกับ Gemchime ที่หมู่บ้าน Oilspring ซึ่งในหมู่บ้านนี้เราจะได้พบ Dogard และ Aida ซึ่งพวกเขาจะชวนเราดูงานเทศกาล Firespring ที่จะจัดขึ้นเร็ว ๆ นี้ และจะให้คนนำทางเราไปดินชมหมู่บ้าน

พอควบคุมตัวละครได้ให้เราไปคุยกับ Yabran หรือจะไปสำรวจเมืองก่อนก็ได้ เมื่อเราพบกับ Yabran เราจะสอบถามถึง Keeper เค้าจะบอกว่าไม่รู้จักแต่ได้บอกว่า สร้อยคอของ Nata ดูคุ้น ๆ และเคยได้ยินเมื่อนานมาแล้ว จากเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงสมัยเก่า และอีกเรื่องเราจะสอบถามถึง Maki เด็กสาวที่เราเห็นระหว่างทาง ซึ่งเธอจะออกไปเสี่ยงอันตรายเพื่อเก็บวัตถุดิบ ด้วยความเป็นห่วงเค้าจะขอให้เราไปช่วยตามหาเธอ หากพร้อมแล้วให้ไปคุยกับ Alma เพื่อไปเควสต่อไป

หลังากคุยกับ Alma ให้เดินสำรวจ โดยไปที่จุดแดงหรือจะหาของรอบ ๆ ก่อนก็ได้ เราจะเจอกับ Rompopolo ให้จัดการมันซะ

Rompopolo

• จุดอ่อน: ลิ้น > หัว = ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่พิษจะได้ผลน้อยเป็นพิเศษ

การต่อสู้กับเจ้าตัวนี้โดยตรงไม่ยากเท่าไหร่ แต่ที่น่ารำคาญคือพื้นที่จะระเบิดเรื่อย ๆ ดังนั้นอาจต้องระวังพื้นให้ดี เพราะมันสามารถ ส่งแก๊สมาระเบิดพื้นแถว ๆ ที่เราอยู่ได้ แถมพื้นรอบ ๆ ยังอาจระเบิดได้อีก

หลังจัดการเจ้า Rompopolo เราจะช่วย Maki ได้สำเร็จแต่ระหว่างทางจะเจอกับ Great Apes เราจึงตัดสินใจหนีและกลับหมู่บ้าน โดยในขณะที่มาถึงหมู่บ้านเทศกาลจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่มีปัญหาคือไฟที่ใช้จุดในงานพิธีการไม่ติด งานจึงล่มอย่างช่วยไม่ได้ แถม Zantoa ต้องกลับหมู่บ้านด่วนเนื่องจากเกิดพายุทรายอีกครั้งก่อนเวลาที่ควร พวกเราจึงตัดสินใจกลับไปดู เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับมอนสเตอร์ที่เราตามหา เนื่องจากคราวก่อนมันก็ปรากฎตัวตอนมีพายุ

The Eye of the Storm

พอกลับไปที่แคมป์ที่ทะเลทรายและเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้คุยกับ Alma และเลือกช้อยข้อบน เราจะออกเดินทางไปกลางพายุทราย โดยเราจะได้พบกับสิ่งที่เราตามหาเจ้า White Wraith ซึ่งกำลังปะทะกับมอนสเตอร์อีกตัวนึง และมันได้ทำการดูดพลังงานของมอนสเตตอร์ตัวนั้นก่อนจะหนีไป หลังจากมันหนีไปแล้วมอนสเตอร์ที่โดนทำร้ายได้คลั่งและเข้ามาทำร้ายเรา ทำให้เราต้องปะทะกับเจ้า Ray Dau ซึ่งจากการพบกับเจ้า White Wraith ทำให้ Nata เกิดคลั่งและจะเข้าไปจัดการมันแต่เราหยุดเค้าเอาไว้ได้

Rey Dau

• จุดอ่อน: หัว > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ / น้ำแข็ง
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่ Paralysis และ Stun จะได้ผลน้อยกว่าอย่างอื่น

เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้มีการโจมตีที่รุนแรงหลายท่ามาก หลัก ๆ จะเป็นการใช้สายฟ้าเพื่อทำการโจมตี และมอนสเตอร์ตัวนี้เราจะไม่สามารถจับได้ต้องฆ่ามันเท่านั้นเนื่องจากมันคลั่งอยู่ ส่วนการต่อสู้ให้ระวังการโจมตีด้วยสายฟ้าของมัน ส่วนการเข้าประชิดมันจะมีท่าโจมตีรอบตัวค่อนข้างมาก อาจต้องคอยจังหวะแล้วโจมตีเรื่อย ๆ และระยะไกลมันจะพ่นสายฟ้าออกมาจู่โจม อีกสิ่งนึงที่ควรทราบคือ Shock Trap ไม่สามารถใช้กับมันได้

และอีกท่าที่อันตรายมากคือท่าเอาปีกไถพุ่งเข้ามาหาเรา โดยจุดที่ควรทราบอีกอย่างคือเจ้าตัวนี้เราจะไม่สามารถใช้กับดักไฟฟ้ากับมันได้ จึงถือว่าเป็นตัวที่รับมือได้ยากระดับนึง ควรพกยาและไเทมต่าง ๆ มาให้พร้อม หากมี Flash Pod จะช่วยทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นพอสมควร

Hope of Home

หลังจัดการกับเจ้า Rey Dau ได้ เราจะได้พบกับซากหินย้อยที่เรืองแสง ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่ Werner พูดไว้ โดยหลังจากที่พายุทรายหยุดลงเจ้าหินนี้ก็หยุดเรืองแสง ทำให้พวกเราคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกัน พวกเราจึงตัดสินใจไปบอกกับ Werner โดยเราจะกลับกันไปที่หมู่บ้านทะเลทรายก่อนจากนั้นจึงตัดสินใจไปที่ Oilwell Basin หลังจัดการอะไรเรียบร้อยแล้ว อาจจะฟาร์มหาของมาทำอุปกรณ์ใหม่ก่อน ให้เราไปคุยกับ Werner ที่เมือง Oilwell Basin

เราจะแจ้งเรื่องที่ทราบให้กับ Werner ได้ทราบว่าหินที่เราพบมีความผิดปกติ ระหว่างที่กำลังคุยกันนั้น Satesh จะเดินเข้ามาโดยเค้าจะอาสาพาเราไปสำรวจช่องทางใต้ดิน ที่เชื่อมไปยังบ้านของ Nata เราจึงหยุดคุยกับ Werner และตัดสินใจเข้าไปในทางใต้ดิน ซึ่งเมื่อมาจนถึงข้างล่าง Neta จะเริ่มจำเส้นทางที่เคยผ่านมาได้และดีใจมากที่ใกล้จะถึงบ้านแล้ว Satesh จึงขอแยกกลับ และพวกเราไปสำรวจต่อ

ระหว่างทางไปต่อพวกเราจะเจอปัญหาคือเส้นทางที่ Neta เคยผ่านมาเมื่อหลายปีก่อนได้ถูกน้ำแข็งปิดล้อมเอาไว้ ทำให้ผ่านไม่ได้ พวกเราเลยตัดสินใจหาทางอื่น และจะได้เจอกับ WudWuds ตัวนึงกำลังโดนมอนสเตอร์แมงมุมจับ จึงตัดสินใจเข้าช่วย และต้องปะทะกับ Nerscylla

Nerscylla

• จุดอ่อน: ก้าม > หัว > ตูด
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ / ไฟฟ้า (จะได้ผลดีถ้าชิ้นส่วนแตก)
• สถานะที่แนะนำ: ทุกอย่างแต่หลับจะได้ผลน้อยเป็นพิเศษ

เจ้ามอนตัวนี้จะมีจุดน่ารำคาญคือนอกเหนือจากการใช้พิษในการโจมตีแล้วยังสามารถเรียกลูกน้องมาช่วยสู้ได้ แม้ว่าพวกลูกน้องจะไม่เก่งแต่มันน่ารำคาญ โดยการโจมตีด้วยพิษมันจะทำการปล่อยเขี้ยวยาว ๆ ออกมาก่อนจะโจมตีด้านหน้า หลบได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าโดนท่าอื่นมาก่อนอย่างท่าใยแมงมุมอาจจะทำให้หลบได้ยาก ส่วนการโจมตีอื่น ๆ ไม่น่ากังวลเท่าไหร่เนื่องจากค่อนข้างช้า

พอจัดการเจ้า Nerscylla ได้แล้ว เราจะสามารถช่วย Rove ที่โดนจับไปได้สำเร็จ โดยเค้าเป็นนักดินทางเราจึงขอให้เค้าช่วยนำทางไปให้เราไปยังที่สูงเพื่อหาช่องทางอื่นในการไปยังเผ่า Keeper ระหว่างทางนั้นเราจะได้เจอกับซากอารยธรรมโบราณ และได้โดน Hirabami จู่โจม ทำให้ต้องต่อสู้กับพวกมัน แถม Nata ยังป่วยอีก เราจึงต้องสู้อย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยพอคุมตัวละครได้แล้วให้คุยกับสมาชิกคนอื่น เราจะได้ภารกิจล่าเจ้าตัวนี้ัมา

Hirabami

• จุดอ่อน: หัวและลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ /ไฟฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่พิษกับหลับจะได้ผลเป็นพิเศษ

ภาพรวมการต่อสู้กับเจ้าตัวนี้ไม่ใช่เรื่องยากนัก ความยากอย่างเดียวคือมันอยู๋กันเป็นกลุ่ม 3 ตัว แต่เป้าหมายของเราคือต้องการล่าเพียงตัวเดียว ดังนั้นเราควรจะใช้ Dung Pod ยิงใส่พวกมันเพื่อให้พวกมันแยกออกจากกัน แล้วเลือกจัดการตัวใดตัวนึง เท่านี้ก็ไม่ยากแล้ว

ส่วนท่าโจมตีของมันที่อาจต้องระวังเป็นพิเศษคือท่าพ่นน้ำแข็งจากระยะไกล และมันจะบินไปมาทำให้อาจจะโจมตีลำบากเล็กน้อย หากว่าพวกมันกลับไปรวมตัวกันก็ใช้วิธีเดิมคือยิง Dung Pod แล้วไล่หาตัวที่เราตีก่อนหน้าไปเรื่อย ๆ

Chapter 3

Long-forgotten Flame

หลังจากกลับมาถึงด้านบน ให้เราตามหา Werner ในเมือง โดยเราจะต้องแจ้งเค้าเรื่องสำคัญ โดยเราจะพยายามไม่ให้เค้าซ่อมอุปกรณ์ของเมือง แต่ทว่าไม่ทันแล้ว เพราะงานเทศกาลกำลังจะเริ่ม ทว่าหลังจากที่งานเริ่ม อุปกรณ์จุดไฟก็เกิดการระเบิด และเหล่ามอสเตอร์ก็ได้เข้ามาบุกโจมตีเมือง โดยเราจะต้องออกไปป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์เข้ามาในเมืองโดยจะต้องปะทะกับพวก Ajarakan

Ajarakan

• จุดอ่อน: ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ / น้ำแข็ง
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง

ในการต่อสู้กับเจ้าลิงใหญ่นี้จะมี Olivia เข้ามาช่วยสู้ด้วย โดยพวกเราจะต้องรับมือกับลิงสองตัว แต่้หลังจากที่ทำดาเมจไปสักพักนึง ลิงอีกตัวจะแยกไป ทำให้ Olivia ตามไปขัดขวางไว้และเหลือเรากับลิงอีกตัวเดียว และเนื่องจากเจ้าตัวนี้เราสามารถใช้สถานะผิดปกติกับมันได้ทุกอย่าง ดังนั้นหากให้ Palico หรือ ตัวเราเองใช้อาวุธสร้างสถานะผิดปกติจะทำให้สู้กับมันได้ง่ายขึ้นพอสมควร

สำหรับการต่อสู้เจ้าตัวนี้ถือว่าค่อนข้างว่องไวระดับนึงเลย นอกจากการต่อยและทุบแล้วมันสามารถพุ่งเข้ามาโจมตีเราจะระยะที่ค่อนข้างไกลได้ และเมื่อสู้ไปสักพักหากมันหนีไปนอกเมืองในเขตน้ำมัน มันจะสามารถดูดพลังความร้อนมาใช้ได้และการโจมตีของมันจะมีวงกว้างขึ้นแถมยังเผาไหม้ได้ ทำให้ต้องระวังมากกว่าเดิม

Long-forgotten Flame

หลังจัดการเจ้าลิงไฟได้แล้วที่หมู่บ้านสถานการณ์กำลังดีขึ้น แต่พวกลิงก็ยังเข้ามากันอย่างต่อเนื่อง ทว่าระหว่างที่พวก Ajakan กำลังเข้ามาจู่โจมก็ได้มีมอนสเตอร์ปริศนาตัวใหม่เข้ามาจัดการพวกมันโดยเราได้เรียกสิ่งมีชีวิตปริศนานี้ตามชาวเมืองคือ The Black Flame ที่มีหน้าตาเหมือนปลาหมึก ซึ่งหากพร้อมจะไปจัดการมัน ให้ไปต้นหามันที่โซนด้านล่างในแผนที่มันจะเดินไปมาหากเจอเควสจะเริ่ม แนะนำว่าให้เตรียมตัวให้เรียบร้อยก่อน

The Black Flame (์Nu Udra)

• จุดอ่อน: ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่ Paralysis กับ Blastblight จะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่

เจ้าปลาหมึกตัวนี้ถือว่าอัปความยากจากตัวก่อนมาพอควร มันสามารถโจมตีได้รอบตัวและมีท่าโจมตีค่อนข้างแรง แถมยังค่อนข้างไวอีกเมื่อเทียบกับขนาด และด้วยความที่มันมักจะอยู่ใกล้ลาวา เราจึงต้องกิน Cool Drink เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไปด้วย จุดยากคือหลังต่อสู้ไปมันจะจุดไฟให้กับร่างตัวเอง และทำการโจมตีเป็นธาตุไฟได้ ซึ่งระหว่างไฟลุกมันจะพ่นไฟโจมตีได้อีกต่างหาก ทำให้ต้องระวังมากขึ้น แถมยังปาไฟใส่เราได้อีกด้วย

หลังจากจัดการกับเจ้า ฺBlack Flame ได้แล้วที่หมู่บ้านจะทำการเริ่มเทศกาลกันต่อ โดยพวกเค้าจะทำการเก็บเกี่ยว Gemchimes กันพอจบภารกิจให้คุยกับลูกทีมคนต่าง ๆ เราจะตัดสินใจกลับมาหารือกันที่ฐานที่ทะเลทราย โดยให้เราไปพบกับ Rosso

พอกลับมาที่ Windward Plains และคุยกับ Gemma เราจะปลดล็อกระบบ Jewel และ Mantles ซึ่งจะช่วยทำให้การเล่นของเราง่ายขึ้นมาก โดย Jewel จะนำไปใส่อาวุธและอุปกรณ์ได้ส่วน Mantles จะช่วยเสริมการต่อสู้ในแง่ต่าง ๆ เราสามารถเปลี่ยนได้ในอนาคต

พอคุยกับ Rosso ให้เรากดช้อยบนเราจะทำการประชุมกันเพื่อหารือว่าจะทำอะไรต่อและสรุปข้อมูลจากที่ได้มา โดยเราจะเข้าใจว่าสภาพอากาศและ Wylk เกี่ยวเนื่องกัน รวมถึงทราบว่า White Wraith มักจะปรากฎตัวมาหากมีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ แต่กลับไม่ปรากฎมาในเมืองล่าสุด พอคุยกันจบเราจะทราบว่าทางที่ถูกปิดที่ใต้ดินได้ถูกเปิดแล้วจากการปรากฎตัวของเจ้าปลาหมึก ทำให้เราตัดสินใจไปสำรวจและหาบ้านของ Neta

The Faithful Keepers

พอคุยกันจบเราจะพา Nata ไปหาบ้าน ซึ่งระหว่างทางเราจะเจอกับ Doshaguma ที่มีอาการผิดปกติและบ้าคลั่ง ซึ่งเราจะต้องจัดการมันเท่านั้น

Doshaguma [???]

• จุดอ่อน: หัว = ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ / น้ำแข็ง / Thunder / Dragon
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง

การต่อสู้กับเจ้า Doshaguma ตัวนี้จะแตกต่างจากเดิมเล็กน้อยคือมันจะมีการโจมตีเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้นแต่โดยรวมแล้วไม่ได้เก่งกว่าเดิมเท่าไหร่นักเพียงแต่ค่อนข้างจะหนากว่าเดิม ที่ต้องระวังคือการตอบแล้วพื้นระเบิด และเราจะจับไม่ได้ต้องฆ่าเท่านั้น

พอจัดการกับมอนที่ขวางทางเรียบร้อยแล้ว เราจะกลับมาเตรียมตัวที่แคมป์ชั่วคราว ให้เตรียมของให้พร้อม แล้วคุยกับ Nata เพื่อเดินทางต่อ โดยในที่สุดเราจะได้พบกับ Tasheeen ซึ่งเป็นคนที่เลี้ยง Nata มาแทนพ่อที่จากไป แต่ระหว่างการพบกันสุดแสนประทับใจ จะมีมอนสเตอร์มาจู่โจมทำให้เราต้องจัดการกับมันก่อน

Rathalos [???]

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟฟ้าและมังกร
• สถานะที่แนะนำ: ได้ทุกอย่างแต่พิษจะไม่ค่อยได้ผล

การต่อสู้กับ Rathalos จุดที่จะต้องระวังคือการพ่นไฟของจากระยะต่าง ๆ และการโจมตีบนอากาศ ซึ่งหากว่ามันบินนานไปเราสามารถยิง Flash Pod ให้มันร่วงลงมาได้ และอีกหนึ่งจุดที่ต้องระวังเลยคือการโจมตีที่สร้างระเบิดที่พื้น

หลังจัดการเจ้า Rathalos เรียบร้อยแล้ว เราจะได้เข้าไปในหมู่บ้านของเผ่า Keeper โดยทุกคนจะดูดีใจมากที่ Nata รอดตายมาได้ โดยจะทำให้เราทราบว่า Wylk ได้ถูกผลิตขึ้นที่นี่ ซึ่งในหมู่บ้านนี้จะเรียกมันว่า Wyvern Milk และใช้มันในแง่ต่าง ๆ และในชีวิตประจำวันในเมือง

หลังคุยทั้งหมดจบ Tasheen จะพาเราไปดูความลับของเมือง ตรงนี้เราจะปลดล็อกระบบการเทรดกับชาวเมืองโดยหาของมาแลกได้ หากเราพร้อมแล้ว ให้ไปคุยกับ Tasheen เค้าจะพาเราไปดูต้นกำเนิดของพวกเค้า และได้เล่าให้ฟังว่า White Wraith ที่พวกเราเรียกกันพวกเค้าเรียกมันว่า Arkveld เป็นการ์เดี้ยนของหมู่บ้าน พวกเค้าใช้เรียกมอนสเตอร์ที่ทำงานให้ ซึ่งเป็นความลับของหมู่บ้านมาหลายชั่วคน

หลังจากที่เราเดินเข้าไปด้านในจะพบกับ สถานที่เพาะเลี้ยงมอนสเตอร์ ซึ่งทำให้ทราบว่าชนเผ่านี้ได้ทำการเลี้ยงมอนสเตอร์ มาตั้งแต่สมัยก่อน โดยเรียกพวกมอนสเตอร์ที่ถูกเพาะพันธ์ว่า Guardian พวกมันไม่จำเป็นต้องกิน และดูดพลังงานในการใช้ชีวิต และพวกมันไม่มีวันแก่และไม่ต้องการสืบพันธ์ ตรายเท่าที่มี Wyvern Milk ทว่า Arkveld ได้หนีออกไปโลกภายนอก ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร โดยหลังจากมันตื่นขึ้นก็ได้เข้าดจมตีชาวบ้านและหนีไป โดยพวกเค้าตัดสินใจที่จะดูแล Guardian ที่เหลือต่อไป ในระหว่างที่กำลังคุยกัน และกำลังเข้าถึงเรื่องสร้อยคอที่ Nata มี Arkveld ก็เข้ามาโจมตีเราเลยต้องจัดการมัน

Arkveld

• จุดอ่อน: โซ่ > หัว = ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: มังกร
• สถานะที่แนะนำ: ได้ทุกอย่างแต่ Exhaust จะไม่ค่อยได้ผล

การต่อสู้กับเจ้าตัวนี้มีจุดที่ต้องระวังหลายอย่าง ทั้งท่าโจมตีระยะไกลด้วยของที่คล้ายโซ่ รวมถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของมัน โดยเราสามารถทำดาเมจใส่ส่วนที่เป็นโซ่ที่มันฟาดได้ด้วย ส่วนการเข้าประชิดและโจมตีต้องระวังการโจมตีระยะใกล้ด้วยส่วนต่าง ๆ ของมัน โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำว่ารอมันฟาดแล้วหาจังหวะโจมตีเรื่อยๆ ก็จะง่ายขึ้นครับ ทั้งนี้ควรพกยาและของมาเยอะ ๆ เนื่องจากเจ้าตัวนี้ค่อนข้างเร็วและโจมตีแรงมาก

หลังจากทำดาเมจให้มันได้มากพอมันจะหนีไป และเราจะตามไปสมทบกับพวก Nata และ Tasheen จะบอกว่าเค้าก็ไม่รู้ว่าจะเรียก Arkveld ว่าเป็นการ์เดี้ยนได้อีกต่อไปหรือไม่ และเค้าบอกว่าอาจมีคนที่รู้เรื่องนี้มากกว่าเค้า แต่ว่าเธออยู่ห่างออกไปไกลจากที่นี่ เราเลยตัดสินใจจะไปพบกับ Allhearken

Chapter 3

Noting Frozen, Noting Gained

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วให้ไปสมทบกับ Olivia ที่ Iceshard Cliffs โดยเมื่อพร้อมแล้วให้ตอบช้อยข้อแรก แนะนำว่าก่อนมาคุยควรอัปเกรดชุดเกราะและอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนโดยจะได้ใช้ยาวจนจบบทสามเลย ส่วนตัวผมหากชุดแนะนำว่าใช้ของ Rathalos ส่วนอาวุธอาจต้องเปลียนเป็นพัก ๆ

เมื่อคุยกับ Olivia เราจะหารือกับเธอและแชร์ข้อมูลกับเธอ ซึ่งเธอจะช่วยเราหา Allhearken โดยเราจะนึกได้ว่ามีคนที่น่าจะนำทางได้จึงได้ไปพบกับ Rove โดยพอคุมตัวละครได้ให้เดินไปยังจุดที่เกมกำหนด เพื่อพบกับ Rove เค้าจะบอกทางไปยังตำแหน่งที่ Allhearken อยู่ แต่ระหว่างทางเราจะโดนมอนสเตอร์ขวางเอาไว้

Jin Dahaad

• จุดอ่อน: ลำตัว = หัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ
• สถานะที่แนะนำ: Blastblight และ Exhaust

เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้สามารถปล่อยน้ำแข็งโจมตีใส่เราได้ สำคัญมากควรพก Hot Drink ไม่อย่างนั้นจะสู้ได้ลำบากมาก หลัก ๆ คือเราต้องระวังท่าโจมตีที่เกี่ยวกับการแช่แข็งนอกจากนั้นก็คอยทำดาเมจใส่ไปเรื่อย ๆ ก็ชนะได้ไม่ยากครับ เพราะตัวมันค่อนข้างใหญ่และไม่ไวมากนัก ทำให้มีจุดที่ให้ทำดาเมจโดยรวมเยอะ หากอัปเกรดอุปกรณ์มาแล้วและพกยามาเพียงพอถือว่าเป็นตัวที่ไม่ยากเท่าไหร่ กรณีที่บอสใช้ท่าใหญ่ที่ชาร์ทในน้ำแข็งให้เราหาก้อนหินและไปหลบด้านหลังจะรอด

Through the Dusk

หลังจัดการเจ้า Jin Dahaad ได้ เราจะเดินทางมาถึงบนเขาแห่งนึงซึ่งสภาพอากาศของที่นี่แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง มีทั้งธรรมชาติและอากาศที่อบอุ่น โดยเมื่อเราเข้ามาถึงชาวบ้านจะรอต้อนรับเราอยู่แล้ว ให้เราตามหา Allhearken ที่อยู่ด้านใน เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการทราบ

จากการพูดคุยกับเธอจะทำให้เรารู้ว่าคนยุคโบราณได้ผลิต Dragontouch และส่งพลังงานไปตามยังส่วนต่าง ๆ ของดินแดน ซึ่งล้ำหน้าถึงขนาดควบคุมธรรมชาติต่าง ๆ ได้ แต่เมืองได้ล่มสลายเนื่องจากพวกเค้าได้เชื้อเชิญหายนะมาด้วยตัวเองและล่มสลายไป หลังจากนั้นก็ได้ผนึกพวก Guardian เอาไว้ ส่วนเรื่องของ Arkveld เธอเองก็ไม่สามารถตอบเราได้ว่าควรทำอย่างไร

• ปลดระบบ Gem Melder

หลังจากคุยกับเธอจบเพวกเราจะมาตั้งแคมป์ที่เมือง โดยตอนนี้จะปลดระบบ Melder เราสามารถนำ Gem ที่ไม่ได้ใช้มาหลอมได้เมื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วให้ไปทานข้าวกับ Allhearken โดยเราสามารถคุยกับเหล่าสมาชิกทีมคนอื่น ๆ ก่อนได้โดยเราจะตัดสินใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ Guardian ก่อนเพื่อหาหนทางว่าจะทำยังไงต่อไป เมื่อพร้อมแล้วให้คุยกับ Tasheen โดยแนะนำว่าให้เตรียมตัวให้ดีทั้งยาและอุปกรณ์เพราะเดี๋ยวจะต้องเจอศึกใหญ่

A Path Forward

เมื่อเราคุยกับ Tasheen เราจะเดินทางไปยังเมืองหลวงเก่าเพื่อสำรวจว่ามีอะไรบ้าง เมื่อทางเปิดแล้วเราจะหาจุดตั้งแคมป์ โดยให้เดินไปยังตำแหน่งสีแดงบนแผนที่

Full Circle

พอตั้งแคมป์เรียบร้อยแล้วให้เดินออกมาสำรวจตามจุดแดง เราจะพบกับ มอนสเตอร์และต้องจัดการมัน

Guardian Ebony Odogaron

• จุดอ่อน: หาง = ขาหน้า > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างยกเว้น Exhaust

เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้จะมีความว่องไวค่อนข้างสูง ให้ระวังการโจมตีด้วยการฟาดและทุบของมันให้ดี นอกนจากนั้นไม่มีส่วนอื่นที่ต้องระวังมากนัก ถือว่าง่ายกว่าตัวเดียวกันในภาคก่อนพอสมควร

Xu Wu

• จุดอ่อน: ลำตัว (ไม่มีจุดอ่อนแต่ตีที่ลำตัวเข้า)
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำแข็ง
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างแต่หลับจะไม่ค่อยได้ผล ส่วนพิษจะได้ผลดีเป็นพิเศษ

หลังจากปะทะกับหมาแล้วเราจะต้องมาจัดการกับเจ้าปลาหมึก Xu Wu ต่อโดยเจ้าตัวนี้ค่อนข้างอันตรายพอสมควรเลยทั้งการโจมตีด้วยใบมีดจากระยะไกล และฟาดรอบตัว ถือว่าเป็นตัวที่น่ารำคาญมาก แต่ด้วยความที่ขามันเยอะ สามารถเล็งแล้วเปิดแผลจากนั้นใช้ Focus จัดการได้ไม่ยาก

Broken Chains

จัดการกับเจ้า Xu Wu เรียบร้อยแล้วเราจะลกับมาที่แคมป์ชั่วคราว ให้เตรียมพร้อมให้เรียบร้อย หากเรียบร้อยแล้วคุยกับ Nata เพื่อเข้าไปสำรวจส่วนลึกของถ้ำ โดย Alma จะมองว่าบางทีมันอาจจะแค่อยากได้อิสระเท่านั้น แต่หลังจากที่เราเข้าไปในส่วนลึก เราจะพบกับเจ้า Arkveld ที่กำลังกินอย่างตะกระตะกราม ทางเราและ Alma จึงมองว่าจำเป็นต้องกำจัดมันทิ้ง ส่วน Nata จะอยากให้เราลองหาวิธีอื่นแต่เราจะมองว่าไม่มีหนทางอื่นแล้วและเข้าจัดการกับเจ้า Arkveld เพื่อไม่ให้ระบบนิเวศเกิดเสียสมดุล

Arkveld (2)

การต่อสู้กับเจ้า Arkveld รอบนี้เราจะต้องจัดการมันให้ตายซึ่ง ภาพรวมแล้วจะง่ายกว่ารอบแรกที่พบหากว่าเราอัปของมาแล้ว โดยการโจมตีของมันจะเหมือนเดิม คือให้ระวังโซ่ที่เป็นการโจมตีระยะไกล และการพุ่งฟาดที่รุนแรงมาก ๆ โดยในช่วงหลัง ที่มันเริ่มบาดเจ็บจะเริ่มมีการโจมตีเป็นวงกว้างด้วยการทุบพื้นระเบิดด้วย ให้ระวังให้ดี โดยสังเกตุโซ่มันจะมีออร่าแดงมาคลุม

จบจากการต่อสู้อันดุเดือดเราจะเข้าไปข้างในและได้พบว่ามีมอนสเตอร์ขนาดยักษ์กำลังยึด Dragontouch ไว้อยู่คือเจ้า Zoh Shia โดยเราจะกลับมาหารือกับสมาชิกคนอื่น ทำให้ทราบว่ามันคือ Guardian ที่ทำให้เมืองพังพินาศ โดยมันได้สะสมพลังงานอยู่ใน Dragontouch มาตลอดเวลา ทว่าหากเราเราหยุดการทำงานของ Dragontouch พลังงานที่ส่งไปเมืองต่าง ๆ ก็จะหยุดลงด้วย ซึ่งวิธีการหยุดจะต้องใช้สร้อยคอของ Nata

จากการพูดคุยกัน Nata ตัดสินใจหยุด Dragontouch แม้ว่าจะต้องเสียสร้อยคอของพ่อไปก็ตาม เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นแล้ว พวกเราจึงเตรียมพร้อมเพื่อหาเขาไปส่ง ซึ่งตรงนี้เตรียมตัวให้ดีจะเป็นการต่อสู้กับบอสตัสุดท้ายก่อนจบเนื้อเรื่องหลัก แนะนำว่าควรทำอาวุธที่โจมตีธาตุมังกร เนื่องจากเจ้าตัวนี้แพ้ธาตุมังกร ถ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วให้คุยกับ Neta เราจะพาเค้าไปยังจุดหมาย แต่ทว่าเราจะเสนอทางเลือกอีกหนึ่งอย่างคือจัดการเจ้า Zoh Shia ซะแล้วเราก็จะทำการเข้าปะทะกับมัน

Zoh Shia

• จุดอ่อน: (ร่างขาว) หัว / ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: มังกร
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างยกเว้น Exhaust ส่วน Stunจะได้ผลน้อยเป็นพิเศษ

บอสตัวนี้แม้ว่าจะมีการโจมตีที่รุนแรงมากแต่ก็ช้ามากเช่นกัน แนะนำว่าค่อย ๆ ใจเย็น ๆ ก็จะจัดการได้ไม่ยาก ท่าหลัก ๆ ที่น่ารำคาญคือการพ่นไฟออกมาโจมตี และท่าระเบิดไฟที่ระยะกว้างมาก ในช่วงแรกจะตีไม่ค่อยเข้าที่ควรทราบคือเราสามถนำชิ้นส่วนที่ตกของมันมาใส่ Sling แล้วยิงเพื่อทำลายเกราะของมันได้ เพื่อปลดให้เป็นร่างสีขาว รวม ๆ แล้วเป็นบอสทีสู้ได้ไม่ยากหากใจเย็น

หลังจากจัดการเจ้า Zoh Shia แล้วเราจะกลับไปที่หมู่บ้าน และได้แจ้งข่าวดีให้กับคนอื่น ๆ และเราก็จะได้พบกับฉาก End Credit ที่สวยงามของเกม ทว่าเกมยังไม่จบอยู่เพียงแค่นี้ เราจะได้พบกับการล่าที่แท้จริงใน Chapter 4

สิ่งที่ควรทราบเมื่อเข้า Hight Rank

1.เควสจะทยอยปลดเมื่อเราทำเงื่อนไขครบ โดยส่วนใหญ่จะเป็นทุก Hight Rank 10 / 20 / 30 / 40 แต่บางเควสอาจจะมีเงื่อนไข บางอย่างเข้ามาด้วยเช่นต้องเจอกับมอนสเตอร์บางประเภทก่อน

2.ในช่วง Higt Rank จะมีระบบหลายอย่างที่ปลด หากเราทำเควส Optional ที่เกมกำหนดไว้เสร็จ เช่นการฝาก NPC ไปหาของ

3.เราจะพบกับมอนสเตอร์ Tempered หรือมอนสเตอร์ที่คลั่งพวกนี้จะโจมตีแรงเป็นพิเศษ แต่เลือดจะน้อยกว่าปกติ

4.มอนสเตอร์ที่เราเจอใน Hight Rank จะเป็นตัวเดิมแต่เก่งขึ้น และวัตถุดิบที่ได้จะต่างจากเดิม สามารถนำมาของ Hight Rank ได้ สังงเกตุได้จากเควสหากเป็นสีม่วงคือเป็นเควสของ Hight Rank แล้ว

เกี่ยวกับบทความนี้

เนื่องจากในเนื้อเรื่องส่วนหลังจะเป็นการทำเควสและการฟาร์มเป็นส่วนใหญ่ ผมจึงขอนำเสนอเฉพาะในส่วนของมอนสเตอร์ที่พบในเนื้อเรื่องเท่านั้นนะครับ

มอนสเตอร์ที่พบช่วง Hight Rank (เฉพาะตัวใหม่)

Yian Kut-Ku

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ / น้ำแข็ง / สายฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่าง

เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้สามารถที่จะพ่นไฟและพุ่งไปมาอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าไหร่ แต่เราสามารถที่จะใช้กับดักและสถานะผิดปกติกับมันได้ทุกชนิด รวมถึง Sonic Bombs ด้วยแนะนำว่าพกมาจะช่วยให้จัดการกับมันได้สบายขึ้น (Sonic จะไม่สามารถใช้ตอนมันโกรธไม่ได้)

Guardian Fulgur Anjanath

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว
• ธาตุที่แนะนำ: น้ำ / น้ำแข็ง / สายฟ้า
• สถานะที่แนะนำ: ใช้ได้ทุกอย่างยกเว้น Exhaust ส่วนพิษจะได้ผลน้อยสุด

Anjanath ร่างนี้สามารถพ่นไฟฟ้าเพื่อโจมตี และ พุ่งชนใส่เราเพื่อแรงมาก และจะมีท่าใหญ่ที่มันจะชาร์ทสักระยะนึงแล้วปล่อย ซึ่งต้องวิ่งหนีเท่านั้น

Gore Magala

• จุดอ่อน: ปาก > ลำตัว = หัว
• ธาตุที่แนะนำ: ไฟ / สายฟ้า / มังกร
• สถานะที่แนะนำ: ติดได้ทุกอย่างแต่ระเบิดและ Exhaust จะได้ผลดี เป็นพิเศษ

เจ้าตัวนี้จะมีการเคลื่อนที่ไวมาก และการพ่นระเบิดของมันจะสามารถระเบิดซ้ำได้ให้ระวังให้ดี อีกจุดนึงคือมันสามารถทำให้เราติดพิษได้ โดยการจะรักษาคือต้องทำดาเมจใส่มันให้หนักพอ หากรักษาไม่ทันค่าพลังปอ้งกันของเราจะลดลง