Path of Exile 2 รวมข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้เล่นมือใหม่

ใครเริ่มเล่น Path of Exile 2 ครั้งแต่ที่ไม่เคยเล่นภาค 1 มาก่อนเลย มาแบบลิงสุดๆ ระบบเยอะเหลือเกินเริ่มต้นไม่ถูก ไม่ต้องกังวลไปบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นไว้ให้กับผู้เล่นมือใหม่ทุกคนแล้ว รับรองว่าอ่านแล้วจากลิงจะกลายเป็นลิงอัปเกรดแน่นอน!

Path of Exile 2 คืออะไร?

Path of Exile 2 หรือเรียกสั้นๆ POE2 เกมแนว Action RPG ที่มีแนวธีมเกมเป็น Dark Fantasy เน้นการล่าของจากมอนและบอสในแต่ละแมพที่มีเป้าหมายหลักคือการเก็บไอเทมมาเสริมแกร่งให้กับตัวละครพร้อมอัปบิ้วสกิลต่างๆ อย่างอิสระ เพราะในแต่ละสายสามารถเล่นได้มากกว่า 1 แบบเลยทีเดียว

การสร้างตัวละคร

ตัวเกมนั้นจะมีความซับซ้อนที่สูง ผู้เล่นส่วนใหญ่จึงแนะนำคู่มือ Build Guide ให้ผู้เล่นใหม่จะได้เริ่มเล่นได้ง่าย แต่มันก็มีทั้งข้อดีสำหรับการใช้ตัวของ Build Guide และสำหรับคนไม่ใช้อยู่เหมือนกัน

ข้อดีของคนใช้ Build Guide แนะนำ: 

  • ตัวละครเก่งพอจะเล่นผ่านเนื้อหาส่วนใหญ่ของเกมได้
  • ลดเวลาในการตัดสินใจเลือกในช่วงแรก
  • เข้าถึงตัวเนื้อหาส่วนต่างๆ ของเกมได้เร็วขึ้น
  • เหมาะสำหรับสายชิลเน้นผ่านสบาย

ข้อดีของคนไม่ใช้ Build Guide แนะนำ: 

  • ได้เรียนรู้ระบบเกมด้วยตัวเอง
  • ไม่ใช้สาย End Game เน้นเล่นชิลสำรวจแมพมากกว่าเร่งผ่านเนื้อหาเกมไปไวๆ
  • ยอมรับว่าตัวละครที่บิ้วเส้นทางมาเองมันอาจจะไม่ได้เก่งเท่าคนอื่น แต่ก็เล่นแล้วสนุก
  • มีเวลาสำรวจแมพและสำรวจตัวเกมมากพอสมควร

* การเล่น POE ควรเล่นตามแบบที่แต่ละคนรู้สึกสนุกที่สุดลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครชอบเล่นสายบิ้วหรือตัวละครเมต้า Build Guide ช่วยคุณได้นะ อยู่ที่แต่ละคนว่าชอบแบบไหนขอแค่เล่นให้สนุกก็พอ

โหมดเกม และ League

ในเกมจะมีโหมดพื้นฐานให้เลือกเล่นได้มั้งหมด 4 โหมดด้วยกันคือ

  • Standard – โหมดปกติ หากตายจะสามารถเกิดกลับมาใหม่ได้ที่จุดเซฟสุดท้ายที่เจอ ไม่มีข้อจำกัดอะไรพิเศษ
  • Hardcore – สำหรับสายชาแลนต์อยากลองของที่ต้องจัดสรรค์ของและความคิดดีๆ เพราะคุณมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าตายตัวละครจะถูกย้ายไปโหมด Standard ทันที และของทั้งหมดที่ได้จากโหมด Hardcore จะหายไป
  • *SSF (Solo Self Found) – เล่นคนเดียว อยู่คนเดียวไม่เจอใคร และไม่สามารถแลกเปลี่ยนไอเทมกับผู้อื่นได้
  • *Hardcore SSF – การรวมกันของ Hardcore และ SSF
  • *Ruthless – เปลี่ยนเป็นเกม POE1 ที่จะเพิ่มความยากมากขึ้นให้ได้ท้าทาย และลดการดรอปของลง
  • Leagues หรือระบบฤดูกาลในเกมจะเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ ทุกคนจะต้องเริ่มต้นสร้างตัวละครใหม่ทุกครั้งที่ League ใหม่มา ทำให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ในเกมและโอกาสทดลองของใหม่ๆ

*แต่ก็ยังสามารถเข้าไปเล่นตัวละครใน League เดิมได้ แต่ของทั้งหมดจะไม่สามารถใช้หรือนำมาขายใน League ใหม่ได้นะ และสำหรับโหมดที่ติด * ยังไม่เปิดให้เล่นในตอนนี้แต่อาจจะมีเปิดในอนาคตแทน

คลาสตัวละคร

ในเกมนี้ 1 ตัวละครเริ่มต้นจะแยกออกไปได้ 2 คลาส รวมทั้งหมด 12 คลาส (ในช่วงหลังจะสามารถปลดคลาสเพิ่มได้อีกคลาสละ 2 คลาส) ซึ่งแต่ละคลาสจะแบ่งคุณสมบัติออกเป็น Strength, Dexterity, Intelligence, Strength/Dexterity และอื่นๆ อีกเพียบ

  • Strength: Marauder (ขวาน), Warrior (ค้อน)
  • Dexterity: Ranger (ธนู), Huntress (หอก)
  • Intelligence: Witch (เวทมนตร์), Sorceress (ธาตุ)
  • Str/Dex: Duelist (ดาบ), Mercenary (หน้าไม้)
  • Int/Dex: Shadow (กริช), Monk (กระบอง)
  • Str/Int: Templar (กระบอง), Druid (แปลงร่าง)

ตัวละครใน POE ไม่ได้ถูกจำกัดเอาไว้ที่คลาส เพื่อนๆ สามารถเลือกสไตล์การเล่นเองได้ค่อนข้างอิสระอยู่ที่ว่าเลือกจะอัปไปทางสายไหน เช่น เล่นคลาส Warrior ที่เป็นสายโจมตีระยะใกล้ ก็อาจจะปรับให้สามาถโจมตีแบบระยะไกลด้วยการใช้สกิลได้ หากเข้าใจตัวระบบมากขึ้นก็สามารถใช้ประโยชน์จากระบบคลาสได้มากขึ้นด้วย

Passive Skill Tree

จุดเด่นอีกอย่างนึงของเกมคือระบบอัปสกิลที่จะมาในรูปแบบของ Skill Tree ที่ใหญ่และแยกเส้นสายออกมาให้เลือกอัปได้เยอะมากกกกกกกกกกก ซึ่งเป็นหน้าที่จะโชว์ของทุกคลาสเลยมันจึงใหญ่สุดๆ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะระบบจะล็อกเส้นทางของตัวละครที่เลือกเอาไว้ให้แล้วเพื่อไม่ให้สับสน ทุกครั้งที่เลเวลอัปจะได้แต้มมาใช้ในการอัปสกิลในหน้า Skill Tree นี้ 

ตัวพาสซีฟที่เลือกอัปได้จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 

  • คุณสมบัติ : ที่จะให้เลือกได้ว่าต้องการอัปเพิ่มสเตตัสค่าอะไร 5 หน่วย ระหว่าง Strength, Dexterity และ Intelligence
  • Notables : พาสซีฟสกิลขนาดเล็กที่จะเพิ่มความสามารถให้กับสกิลต่างๆ ของตัวละครที่เล่น
  • Keystones : พาสซีฟสกิลขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มความสามารถที่สูงขึ้นกว่าเดิม และอาจจะได้รับความสามารถเพิ่มเติมที่พาสซีฟสกิลขนาดเล็กไม่มีด้วย

ระบบกลิ้งหลบ

การกลิ้งหลบเป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน POE2 ที่จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถหลบการโจมตีรูปแบบต่างๆ จากศัตรูได้ ด้วยการกดปุ่ม Space bar การกลิ้งหลบจะไม่สามารถหลบท่าโจมตีที่เป็นแบบ AOE ได้ แต่ใช้กลิ้งหนีออกมาอย่างรวดเร็วก็ไม่เลว หากทำการกดกลิ้งแล้วจะไม่สามารถยกเลิกได้ ไว้ใช้หลบหรือยกเลิกอนิเมชั่นตอนใช้สกิลในยามขับขันได้ดี

สำหรับการกลิ้งนั้น “ไม่ได้เร็วกว่าการเดินแต่อย่างใด” เพราะฉะนั้นการกลิ้งหลบไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไป ควรเก็บไว้กลิ้งจังหวะที่ต้องการจะดีที่สุด

Life / Mana / Spirit

ในทุกๆ เกมรวมไปถึงเกม POE2 จะได้ค่า Life (พลังชีวิต) เป็นสีแดงที่จะอยู่ในฝั่งซ้าย, Mana (ในการใช้สกิลต่างๆ ) เป็นสีฟ้าที่จะอยู่ฝั่งขวา และ Spirit (พลังวิญญาณ) จะเป็นเอฟเต์ต่อเนื่องเช่น บัฟถาวร, ออร่า, มินเนียนเป็นต้น การจะหาพลังวิญญาณได้จะได้จากการอัปพาสซีฟและจากอาวุธและออฟเสริมจากอาวุธเท่านั้น

Skill Gems

Skill Gems หรือ อัญมณีสกิล เอาไว้ในใช้ในการเรียนรู้สกิลใหม่เพิ่มเติมในแต่ละระดับ หากเป็นอัญมณีสกิลในระดับเดียวกันจะสามารถเรียนรู้ได้เฉพาะในระดับนั้นเท่านั้น เช่น อัญมณีสกิลระดับ 1 ก็จะเรียนได้แค่ของระดับ 1 เท่านั้น แต่ถ้าเป็นอัญมณีสกิลระดับ 2 จะสามารถเรียนสกิลระดับสอง และสามารถอัปเกรดสกิลในระดับ 1 ให้มีเลเวลสูงขึ้น 1 ขั้นได้ด้วย

แน่นอนว่าตัวอัญมณีสกิลจะมีแบ่งเป็นแบบเรียนได้เฉพาะในคลาสของตัวเอง และ Uncut Skill Gems หรือ อัญมณีสกิลไม่กำหนดรูปแบบ จะสามารถเรียนรู้สกิลของคลาสอื่นๆ ที่มีเงื่อนไขตรงกันมาใช้ได้เพื่อนำมาปรับใช้ให้มีสไตล์การเล่นที่หลากหลายขึ้นยิ่งกว่าเดิม บางทีอาจจะได้บิ้วใหม่สำหรับการเล่นในรอบนี้ไปเลยก็ได้นะ

Support Gems

สกิลใน POE2 ใส่ได้สูงสุดทั้งหมด 9 ช่อง ในแต่ละช่องหลังจากใส่สกิลจะมีช่องกลมเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งตรงส่วนนั้นคือ Support Gems เอาไว้เพิ่มความสามารถให้กับสกิลนั้นๆ ที่ได้มาจากอัญมณีสกิล โดยเริ่มแรกจะสามารถใช้ Support Gems ได้สกิลละ 2 ช่อง และจะสามารถปลดเพิ่มได้สูงสุด 5 ช่องในช่วงหลัง (ช่องที่ 5 เป็นช่องที่หายากมากๆ)

การหา Support Gems จะได้มาจากการทำเควส และดรอปจากมอนในแมพ อย่าลืมกดดูของสกิลอื่นๆ ที่ใส่ไปด้วยนะ เพราะแต่ละสกิลจะมี Support Gems แตกต่างกัน แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนใส่กับสกิลอื่นได้หากเงื่อนไขครบถ้วนเช่น จะต้องมีค่า Strength ถึง 9 ก่อนจึงจะสามารถใส่ได้เป็นต้น

ตัว Support Gems จะมีทั้งหมด 3 สีที่จะแบ่งตามคุณสมบัติต่างๆ Strength (อัญมณีสีแดง), Dexterity (อัญมณีสีเขียว) และ Intelligence (อัญมณีสีฟ้า) ซึ่งอัญมณีเหล่านี้นอกจากจะสามารถใส่ที่สกิลได้แล้ว ยังใส่ให้กับอาวุธได้ด้วยเช่นกัน (เวลาถอดสลับอาวุธอัญมณีจะหลุดออกมาด้วย อย่าลืมใส่ให้กับอาวุธชิ้นใหม่ด้วยนะ)

Flasks (ขวดยา)

เป็นของใช้สุดจำเป็นของการต่อสู้ โดยตัวขวดยาจะแบ่งเป็นขวดยาเลือดกับขวดยามานาเอาไว้กดใช้ในยามขับขัน หลังกดใช้มันจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นจนเต็มสามารถกดใช้ได้มากกว่า 1 ครั้ง แต่ขวดยาก็มีหมดเหมือนกันนะ ถ้ากดใช้ไม่คำนวณดีๆ อาจจะไม่เหลือตอนสู้บอสก็ได้ 

เมื่อขวดยาหมด หรือมีการสลับเปลี่ยนขวดยาใหม่ที่มีความจุเพิ่มขึ้นก็จะทำให้น้ำในขวดยาหมดไปทันทีเช่นกัน จึงจะต้องไปที่บ่อน้ำของหมู่บ้านเพื่อเติมให้กลับมาเต็มขวดอีกครั้ง (สามารถหาขวดระดับอื่นได้จากมอนในเมพ)

อุปกรณ์ และ ไอเทม

ในการสำรวจแมพจะขาดกระเป๋าสำหรับเก็บไอเทมและช่องใส่อุปกรณ์ต่างๆ ได้ยังไง โดยในหน้าต่างกระเป๋าจะมีแบ่งเป็นสองส่วนดังนี้

ส่วนของใส่อุปกรณ์ของตัวละครจะมีทั้งหมด 9 ช่อง

  • อาวุธใส่ได้ 2 ช่อง (การใส่อาวุธจำเป็นต้องสอดคล้องกันด้วย เช่น ธนู+ซองลูกธนู, ค้อนกับโล่ เป็นต้น)
  • หัว 1 ช่อง
  • ชุด 1 ช่อง
  • เข็มขัด 1 ช่อง (เอาไว้เพิ่มช่องขลังใส่ไอเทมพิเศษ)
  • แหวน 2 ช่อง และสร้อย 1 ช่อง
  • ถุงมือ 1 ช่อง
  • รองเท้า 1 ช่อง

อีก 1 ส่วนจะมีไว้สำหรับการเก็บไอเทมใส่ตัว ซึ่งตัวช่องจะมีจำนวนจำกัดจะต้องจัดสรรช่องเองพยายามเรียงไอเทมให้ใส่พื่นที่ให้คุ้มค่าที่สุด

ในกรณีของเต็มเก็บเพิ่มไม่ได้ ให้ใช้วิธีการเปิดวาร์ปกลับไปที่เมืองเพื่อทำการขายไอเทมที่รกกระเป๋าทั้งหมดออกไป พร้อมเก็บไอเทมจำเป็นลงกล่องก่อนค่อยกดที่วาร์ปที่เปิดทิ้งไว้กลับไปยังจุดเดิมแล้วลุยต่อได่เลย

ความแรร์ของไอเทม

ภายในเกมจะมีความแรร์ของไอเทมอยู่ทั้งหมด 4 ระดับด้วยกัน ซึ่งใส่แต่ละระดับจะให้ออฟรองมาไม่เท่ากัน มีสุ่มได้ตั้งแต่ 1 ออฟชั่น จนไปถึง 8 ออฟชั่น เลยทีเดียว ส่วนออฟหลักจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์แต่ละประเภทที่จะกำหนดค่าเฉพาะแต่ละชนิดมาให้เลยแต่จะมีการสุ่มค่าสถานะของชิ้นนั้นๆ มาแทน ซึ่งระดับและสีของไอเทมจะมีดังนี้

  • Normal : เป็นไอเทมสีเทาที่จะไม่มีออฟรอง
  • Magic : เป็นไอเทมสีฟ้าที่จะมีออฟรองสุ่มได้ 1 – 2 ออฟชั่น
  • Rare : เป็นไอเทมสีทองที่จะมีออฟรองสุ่มได่ 4 – 8 ออฟชั่น
  • Unique :เป็นไอเทมสีส้มที่จะมีออฟรองสุ่มได่ 4 ออฟชั่น ความพิเศษของไอเทมสีส้มจะมีทั้งเป็นของที่สามารถสวมใส่ได้ทุกคลาส และแบบเจาะจงคลาสที่มีออฟเฉพาะตัวมาเลยไม่เหมาะใส่ให้กับอาชีพอื่น เช่น เพิ่มเลือดแลัความเร็วในการเกิดใหม่ของมินเนียน ซึ่งมีแค่ Witch เท่านั้นที่สามารถเลือกออกมาได้เป็นต้น

สำหรับวิธีการเพิ่มออฟชั่นหรือการเปลี่ยนแปลงระดับสามารถใช้ไอเทมช่วยเหลือเพิ่มเติมได้จากพวก Orb แต่ละชนิด แต่ Orb ที่แนะนำให้เก็บเอาไว้อย่างใส่เล่นจะมีหลักๆ อยู่ 2 อันคือ Regal Orb และ Exalted Orb เพราะสามารถนำไปใช้ซื้ออุปกรณ์ระดับสูงกับผู้เล่นด้วยกันเองได้นะ

Item Modifiers

อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะมีบอกค่าโบนัสแต่ละออฟชั่นที่ได้รับมาด้วย ซึ่งทุกชิ้นจะได้มาเป็นแบบสุ่มทั้ส่วนของออฟหลักและออฟรองเลย ทำให้ไม่รู้ว่าเจ้าค่าโบนัสที่เราได้มามันสูงหรือว่าต่ำสุดกันแน่?

สำหรับวิธีดูค่าต่ำและค่าสูงสุดของแต่ละออฟทำได้ง่ายๆ เพียงเอาเมาส์ไปชี้ที่ไอเทมที่ต้องการส่องแล้วกด Alt ค้างไว้ แค่นี้จะได้เห็นความจริงกันแล้วว่าค่าโบนัสในออฟที่ได้มามันอยู่ในระดับไหน 

ช่องเสริมอุปกรณ์

เป็นรูที่เอาไว้ใส่กับรูนอักขระต่างๆ เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับตัวละคร ที่จะใส่เพื่อป้องกันธาตุนั้นๆ เพิ่ม (ซึ่งหากไม่จำเป็นก็ไม่แนะนำให้ใส่เท่าไหนยกเว้นหาไม่ได้จริงๆ นะ) อุปกรณ์บางชิ้นที่ดรอปได้มาก็อาจจะมีรูช่องเสริมมาให้เลย แต่ถ้าหากไม่มีก็สามารถเจาะรูเพิ่มเข้าไปได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะเจาะเพิ่มได้ทุกช่องนะ ช่องที่เจาะได้นะมี

  • หัว / ถุงมือ / รองเท้า : เจาะได้ 1 รู
  • เสื้อ : เจาะได้ 2 รู
  • อาวุธ : จะมีบางชิ้นที่สามารถเจาะได้ 2 รู เช่น ธนู และอาวุธ 2 มือ / อาวุธมือเดียวจะเจาะได้ 1 รู / ส่วนไม้กายสิทธิ์กับคฑาเป็นอาวุธสองเป็นชิ้นที่ไม่สามารถเจาะรูเพิ่มได้

สำหรับการหาไอเทมชนิดนี้หาจากการนำไอเทมที่มีรูไปทุบก็จะได้เศษของไอเทมเจาะรูมา 1 รูได้ 1 เศษ ถ้าทุบ 2 รู ก็ได้จะมา 2 เศษ หากรวมกันครบ 10 เศษ ก็จะได้ไอเทมสำหรับเจาะรูมา 1 ชิ้น ช่วงแรกจะหาได้ค่อนข้างน้อย เพราะฉะนั้นให้เก็บไว้เจาะชิ้นที่ต้องการจริงๆ จะดูที่สุด

โล่พลังงาน

เป็นเกราะเสริมที่ทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันชั้นแรกทำให้การสู้กับมอนหรือบอสในบางครั้งก็ไม่โดนดาเมจถึงตาย หากเกราะป้องกันหมดสามารถเพิ่มขึ้นเองได้เมื่อผ่านไประยะเวลานึงหลักจากไม่ถูกโจมตี สำหรับวิธีการหาโล่พลังงานจะได้จากการอัป Skill Tree หรือจากออฟหลักและออฟรองจากอุปกรณ์ที่สวมใส่ ใครที่โดนตีบ่อยๆ มีไว้อุ่นใจดี

Latest articles

Related articles